เกร็ดความรู้ : หน้าต่าง

              อีกหนึ่งเกร็ดตวามรู้เล็กๆ  เพื่อลดปัญหาความไม่เข้าใจกันเกี่ยวกับหน้าต่างและจะได้คุยกับเค้าในแนวทางเดียวกันน่ะ  ก็เช่นเดิมขอบคุณข้อมูลจาก SCG  สำหรับหน้าต่างพอจะแบ่งได่ 6 ประเภทได้แก่

1. หน้าต่างบานเปิด สามารถรับลมได้ดีกว่าบานเลื่อน เนื่องจากเป็นช่องเปิดได้เต็มที่ทุกบาน ขณะเปิดจะกินพื้นที่บริเวณด้านนอกบ้าน (บริเวณที่บานหน้าต่างเปิดออกไป) ดังนั้นจุดติดตั้งจึงไม่ควรอยู่ในบริเวณที่ผู้คนเดินผ่านไปมาเนื่องจากอาจเป็นสิ่งกีดขวางทางเดินได้ (อาจเลือกใช้หน้าต่างประเภทนี้ไว้ที่ชั้น 2 ของบ้าน) ประตูบานเปิดสามารถแบ่งได้ 2 รูปแบบ คือ บานเปิดที่ใช้บานพับธรรมดา และบานเปิดที่ใช้บานพับแบบวิทโก้

1.1 หน้าต่างที่ใช้บานพับแบบธรรมดา สามารถเปิดออกได้กว้างถึง 180 องศา แต่เวลาเปิดแล้วจะต้องมีขอยึดไว้ เพื่อกันลมตี โดยสามารถทำได้ทั้งบานเดี่ยวและบานคู่


1.2 หน้าต่างที่ใช้บานพับแบบวิทโก้ เป็นหน้าต่างที่เปิด-ปิดไปในทางเดียวกันเท่านั้น และมักจะเป็นหน้าต่างบานเดี่ยวที่แต่ละบานจะมีบานพับอยู่ที่ด้านบนและด้านล่าง ข้อดี คือ ไม่ต้องใช้ขอสับเนื่องจากมีความฝืดอยู่แล้ว แต่ข้อเสียคือไม่สามารถรับแสงและลมได้มากเท่ากับหน้าต่างที่ใช้บานพับแบบธรรมดา เนื่องจากเปิดได้ไม่กว้างมากนัก


2. หน้าต่างบานเลื่อน ขณะเปิดจะได้ช่องลมลดลงเหลือครึ่งนึง เพราะต้องมีพื้นที่สำหรับบานที่เลื่อนไปด้วย ข้อดีคือ ไม่กินพื้นที่ สามารถใช้ในบริเวณที่มีคนเดินผ่านไปมา ที่สำคัญและต้องระวังคือ เรื่องความปลอดภัย ควรเลือกหน้าต่างที่มีตัวล็อค หรือ
ระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาด้วย


3. หน้าต่างบานยก (Slide-hung) สามารถเปิดรับบรรยากาศภายนอกได้โดยไม่กินพื้นที่บริเวณนอกบ้านหรือในบ้าน (คล้ายหน้าต่างบานเลื่อน) เพียงแค่ยกบานขึ้นเพื่อเปิด หรือยกบานลงเพื่อปิด โดยสามารถเปิดรับอากาศภายนอกได้ครึ่งหนึ่งของพื้นที่เต็ม แต่สามารถรับแสงและชมวิวได้อย่างเต็มที่ เหมาะกับการใช้งานทั้งบ้านพักอาศัยและอาคารสูงที่สามารถคงความสวยงามได้อีกด้วย


4. หน้าต่างบานกระทุ้ง เป็นหน้าต่างที่มีบานพับอยู่ด้านบนของบาน วิธีเปิด คือ ดันจากด้านล่างของบานขึ้นไป ขณะที่เปิดการรับลมอาจจะได้ไม่เต็มที่ ตัวบานจะทำหน้าที่เป็นกันสาดในตัว รวมถึงช่วยกันแสงสะท้อนจากด้านบนอีกด้วย การเลือกใช้หน้าต่างประเภทนี้ ควรเลือกใช้ในบริเวณที่ห่างจากทางสัญจรของคนทั่วไป ตัวบานมีทั้งลูกฟักที่เป็นกระจกหรือบานทึบ ควรเลือกวงกบที่มีความแข็งแรงมากๆ เพื่อให้สามารถรับน้ำหนักของบานหน้าต่างได้


5. หน้าต่างบานพลิก คือ หน้าต่างที่มีจุดศูนย์กลางของการหมุนอยู่บริเวณกลางบานหรือกลางวงกบ สามารถเปิดได้โดยการผลักให้บานพลิกไปมา มีทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน เมื่อเปิดแล้วจะได้ช่องเปิดเต็มที่ ได้ลมดี สามารถทำความสะอาดได้ แต่ขณะเปิดจะกินพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกอย่างละครึ่งบาน ข้อดีของบานพลิกแบบพลิกขึ้นในแนวนอน คือ ทำหน้าที่เป็นเหมือนกันสาดที่กันได้ทั้งแดดและฝน ข้อเสีย คือ ไม่สามารถติดมุ้งลวดเพื่อกันยุงหรือแมลงได้


6. หน้าต่างบานเกล็ด หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่าหน้าต่างแบบเกล็ดหมุน จะไม่มีบานปิดเปิดสู่ภายในหรือภายนอก ใช้สำหรับการระบายอากาศ สามารถรับลม และแสงสว่างจากภายนอกเพียงแค่หมุนบานเกล็ดเท่านั้น การทำหน้าต่างบานเกล็ดควรคำนึงถึง

1. ความกว้างของช่องหน้าต่างไม่ควรกว้างมากนัก ไม่ว่าบานเกล็ดจะทำด้วยวัสดุชนิดใดก็ตาม ไม่ว่า ไม้ อลูมิเนียม หรือกระจก เพราะจะแอ่นตัว บิดงอ และแตกง่าย แต่ถ้าจะใช้วัสดุให้มีขนาดหนาขึ้น น้ำหนักก็จะมากตาม มีผลทำให้อุปกรณ์ที่ใช้เปิดปิดทำงานหนักและเสียเร็ว

2. ความสามารถในการกันฝนของบานเกล็ดนั้นกันฝนได้ไม่ค่อยดี เพราะไม่มีบังใบ ขณะเปิดถ้าฝนสาดแรงๆ น้ำฝนจะตีย้อนเข้ามาภายในบ้านได้ วิธีแก้โดยให้มีรอยซ้อนกันของเกล็ดให้มากๆ (ขณะฝนตกแนะนำให้ปิดบานเกล็ดให้สนิท)

3. ความเสี่ยงต่อขโมยเข้าบ้าน เพราะ เพียงแค่ง้างอลูมิเนียมที่ยึดติดบานเกล็ดออก ก็สามารถดึงบาน ออกมาได้ทั้งหมด ถ้าจำเป็นต้องติดจริงๆ ก็แนะนำให้ติดระบบรักษาความปลอดภัย (หรืออาจติดเหล็กดัดกันขโมย)


ขอบคุณข้อมูลจาก SCG
http://www.scgexperience.co.th/th/blog/detail.aspx?id=10&post=269

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น